ด้วยความที่แต่เดิมเราเป็นสาวผู้รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม นิยมพกถุงผ้า ดังนั้นเมื่อไปท่องเที่ยวที่ใด ถ้ามีโอกาสก็ต้องลองขอไปปั่นจักรยานชมเมือง ครั้งก่อนเราไปปั่นบนกำแพงเมืองซีอาน ครั้งนี้มาเที่ยวปักกิ่ง เมืองแห่งจักรยานสาธารณะ เราก็ไม่พลาดที่จะลองปั่นจักรยานในเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แถมเป็นการปั่นจักรยานบนถนนใหญ่ร่วมกับรถสารพัดประเภทบนท้องถนนเสียด้วย เริ่มวันแรกของการปั่นด้วยเส้นทางการปั่นจักรยานที่มีแต่คนจับตามองคุณ
ทำไมต้องใช้จักรยานสาธารณะ
ก่อนมาปักกิ่ง เรามีคำถามต่อจักรยานสาธารณะในใจว่า- ปั่นบนถนนน่าจะอันตรายไหม?
- มีรถไฟฟ้าครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ไหนจะรถเมล์อีก ทำไมจำเป็นต้องใช้รถจักรยานสาธารณะ?
- จะจอดตรงไหน?
- จะปั่นข้ามถนนยังไง? ถนนก็ตั้งหลายเลน ใหญ่กว่ากรุงเทพอีกนะเธอ
คำถามนี้หมดไปเมื่อได้มาเที่ยวปักกิ่ง 1-2 วันแรกเท่านั้นเอง
รถไฟฟ้าในปักกิ่งมีครอบคลุมทั่วเมืองก็จริง แต่ว่าสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้อยู่ตรงสถานที่ที่เราจะไปเสมอไป บางครั้งต้องมีการเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าโดยการเดินภายในสถานีที่ค่อนข้างไกลเลยทีเดียว ถ้าวันนึงเดินทางเยอะ แค่นั่งรถไฟฟ้าก็เพลียแล้วค่ะ แล้วก็เหมือนฟ้าประทานมีสาวปักกิ่งคนนึงเข้ามาคุยกับเรา แนะนำว่าควรใช้รถจักรยานสาธารณะร่วมด้วยจะสะดวกกว่า วันรุ่งขึ้นเราเลยขอลองปั่นจักรยานกลางเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่งดูสักครั้ง
เส้นทางการปั่นจักรยานที่มีแต่คนจับตามองคุณ
วันแรกที่เราได้ลองปั่น เราเริ่มปั่นจากระหว่างทางประตูทางด้านทิศเหนือมุ่งสู่ประตูทิศใต้ของพระราชวังต้องห้าม (The forbidden city)

ด้วยความเข้าใจว่าเดี๋ยวค่อยปั่นไปจอดตรงแถวเทียนอันเหมินแล้วก็เดินเข้าประตูทิศใต้ แต่ที่ไหนได้เพิ่งรู้ว่าพอปั่นมาถึงหน้าเทียนอันเหมินเแล้วไม่มีที่ให้จักรยานจอดได้เลย (ปกติจักรยานสาธารณะที่นี่ปั่นไปจอดที่ไหนก็ได้นะคะ แต่แถวรอบ ๆ เทียนอันเหมินน่าจะเป็นพื้นที่ต้องห้ามพิเศษจริง ๆ) เราเลยต้องเลยตามเลย หาทางปั่นวนมาจอดจุดที่น่าจะใกล้เทียนอันเหมินที่สุดอีกรอบ ลองดูจากในรูปด้านล่างนะคะ เป็นเส้นทางการปั่นคร่าว ๆ เส้นทางน่าจะผิดพลาดเล็กน้อย เพราะในรูปกลายเป็นว่าเราปั่นทะลุในพระราชวังมาได้ซะงั้น จริง ๆ ปั่นอยู่รอบนอกนะคะ

ระหว่างทางเห็นคนที่ปั่นอยู่ข้างหน้าจอดถ่ายรูป เราเลยจะจอดบ้าง เหลือบไปเห็นมีคนเดินมาไล่ว่าห้ามถ่าย ห้ามจอด
สักพักก็เริ่มสังเกตเห็นว่าตลอดทางทุก 10 ก้าวมีคนยืนอยู่เป็นระยะ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปด้วยสิ แต่คนเหล่านั้นถูกสั่งมาให้จับตาเรา
พอเลี้ยวพ้นช่วงเทียนอันเหมินมาเราก็ไม่แน่ใจเส้นทาง พักเปิดแผนที่ กินน้ำ ก็ยังมีคนเดินมาดูเราใกล้ ๆ ว่าทำอะไร เฮ้ย...ปั่นแถวนี้นี่ห้ามพักเลยหรอ

จนมีอยู่ช่วงเราปั่นขึ้นสะพาน ก็ยังมีคนยืนบนสะพานเป็นระยะอีก ให้ตายเถอะ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแถวนี้ แค่เท่าที่แสดงตัวให้เห็นก็นับไม่ถ้วนแล้ว แล้วทุกคนก็อยู่ในระยะที่จะพุ่งมาประชิดตัวเราได้เสียด้วย ถ้าเราคิดจะทำอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีรูปช่วงปั่นนะคะ เพราะปั่นอย่างเดียวจริง ๆ ไม่กล้าหยุดถ่ายรูป

กว่าจะปั่นมาถึงใกล้ ๆ กับทางเข้าประตูทิศใต้ของพระราชวังต้องห้ามก็เริ่มหิว เลยจอดจักรยานแล้วก็กินเติมพลังนับเป็นการปิดทริปการปั่นจักรยานเบา ๆ วันด้วยระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็เดินต่ออีกหน่อยเข้าไปเที่ยวในพระราชวังต้องห้าม
ความฝันเล็ก เล็ก
หลังจากการปั่นจักรยานในปักกิ่งครั้งแรกแล้ว เราก็ติดใจ เพราะว่ามันทุ่นแรงเราได้มากจริง ๆ ราคาแสนถูกแค่เริ่มต้นครั้งละ 5 บาท สะดวกมากหยิบจักรยานคันไหนมาใช้ก็ได้ จอดที่ไหนก็ได้ ช่วยลดมลพิษให้โลกอีกตั้งหาก หลาย ๆ วันต่อมาที่เราเที่ยวในปักกิ่ง เราเลยเลือกใช้บริการจักรยานสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ (ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราจะไปด้วยนะคะ ว่าไปทางไหนสะดวกกว่ากัน) พบว่าบางครั้งถ้าใช้รถไฟฟ้าอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงจุดหมาย แต่เราใช้จักรยานกลับทุ่นเวลาเหลือแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง แอบฝันว่าอยากให้เมืองไทยมีพื้นที่ถนนให้คนได้ปั่นจักรยานใช้จริงแบบนี้เหมือนกัน ไม่ต้องไปเสียค่ารถไฟฟ้าที่แสนแพงขูดเลือดขูดเนื้อ หรือนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างสุดหวาดเสียว
ปล. ผู้เขียนกลับมาแล้วอยากจะลองจักรยานสาธารณะปันปั่นของกรุงเทพมหานครอยู่เหมือนกันแต่หาข้อมูลแล้วพบว่าราคาเริ่มต้นตั้ง 300 กว่าบาทแน่ะ ต่างจากที่ปักกิ่งเราเติมเงินเริ่มต้นแค่ 50 บาทเอง แล้วอีกอย่างโครงการปันปั่นก็ดูท่าว่าจะใช้ไม่สะดวก อีกทั้งกลัวว่าจะไม่ได้มีโอกาสกลับมาเขียนเรื่องราวให้ทุกท่านได้อ่านอีกน่ะสิ ดังนั้นเลยต้องพับโครงการรีวิวปั่นจักรยานสาธารณะในกรุงเทพไป

ติดตามทริปปั่นจักรยานเล็ก ๆ เพิ่มเติมได้ในเพจ GoNeverStop ค่ะ
ความคิดเห็นต่อบทความ
ความเห็นบน MagGang(0)
ความเห็นบน Facebook()